มาทำความรู้จักกับซนฮึงมิน นักเตะดาวรุ่งจากทอตนัมฮอตสเปอร์ เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวชาวเอเชียคนแรกแห่งพรีเมียร์ลีก 2021 – 2022 และนักเตะเอเชียยอดเยี่ยมถึง 5 สมัย
เชื่อว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับนักเตะหนุ่มดาวรุ่งมาแรงชาวเกาหลีใต้ที่ฮอตฮิตที่สุดอย่าง “ซนฮึงมิน” ผู้เล่นตำแหน่งกองหน้า/ปีกจากทีมทอตนัมฮอตสเปอร์ เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวหรือผู้เล่นที่สามารถทำประตู้ได้มากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2021 – 2022 ที่ผ่านมาคู่กับ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” กองหน้าจากทีมลิเวอร์พูลที่สามารถทำประตูไปได้ทั้งหมด 23 ประตูจาก 35 นัด
เส้นทางนักเตะอาชีพของซนฮึงมินถือว่าไม่ธรรมดา เนื่องจากนักเตะจากเอเชียน้อยคนนักที่จะได้รับโอกาสในการเป็นนักค้าแข้งในระดับโลก และที่มาผ่านนั้นนักเตะจากเอเชียเพียงไม่กี่คนที่จะได้รับการยอมรับในวงกว้าง ยกตัวอย่างเช่น ฮิเดโตชิ นากาตะ เจ้าของสถิตินักเตะเอเชียที่มีค่าตัวแพงที่สุด ( ก่อนถูกทำลายสถิติโดยซนฮึงมินนั่นเอง ), ชุนสุเกะ นากามูระ, เคสึเกะ ฮอนดะ, อี ยองพโย, เมห์ดี มาดาวิเกีย หรือจะเป็น พัค จีซองผู้สร้างตำนานในการรับหน้าที่ “กัปตันทีมคนแรกของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่เป็นชาวเกาหลีใต้” แต่กลับไม่มีใครเป็นขวัญใจประชาชนได้เทียบเท่ากับซนฮึงมินมาก่อนเลย…
“ซนฮึงมิน” เขาต้องผ่านการฝึกฝนและฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ มากมายกว่าจะมาเป็น “ความภาคภูมิใจของชาวเกาหลีใต้ทุกเพศทุกวัย” เฉกเช่นปัจจุบันนี้ วันนี้ Breaker ขอพาทุกคนมาเปิดตำนานนักเตะชาวเกาหลีใต้ที่กลายเป็นตำนานระดับโลกอย่าง “ซนฮึงมิน” กับแง่มุมต่างๆ ที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน…
กว่าจะมาเป็น “ซนฮึงมิน” ที่ทุกคนรู้จัก
“ซนฮึงมิน” เกิดและเติบโตที่เขตชุนชอน จังหวัดคังวอน ประเทศเกาหลีใต้ โดยที่เขามีพ่อที่เรียกได้ว่าเป็นเบื้องหลังความสำเร็จอย่าง “ซนอึงจอง” อดีตนักค้าแข้งทีมชาติเกาหลีใต้ชุดบี ก่อนที่จะแขวนสตั๊ดไปในวัยเพียง 28 ปีด้วยอาการบาดเจ็บบริเวณเอ็นร้อยหวาย พ่อของซนฮึงมินจึงทุ่มเทเวลาที่เหลือเพื่อให้ความรู้ด้านฟุตบอลแก่เด็กๆ ในละแวกบ้านและฝึกฝน เอาใส่ใจซนฮึงมินที่มีใจรักในด้านของกีฬาฟุตบอลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วให้ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพเดียวกันในอนาคตนั่นเอง
คุณพ่อของซนฮึงมินได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อเดอะโคเรียไทมส์ไว้ว่าเขาต้องการฝึกฝนลูกชายจากประสบการณ์ที่เขามีทั้งหมด โดยมุ่งเน้นไปที่การปูพื้นฐาน การออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะเขาเชื่อว่าการฝึกฝนเท่านั้นที่จะทำให้ลูกชายเขาประสบความสำเร็จ นอกจากนี้เขาไม่อนุญาตให้ซนฮึงมินลงเล่นในลีกอย่างเป็นทางการเลยจนกว่าจะมีอายุครบ 16 ปีนั่นเอง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการฝึกฝนอย่างหนักของซนอึงจอง ส่งผลให้ซนฮึงมินโดดเด่นและฉายแสงความเป็นนักค้าแข้งคุณภาพได้มากกว่าใคร เนื่องจากไม่ใช่เพียงร่างกายที่แข็งแรงหรือความเป็นลูกชายของอดีตนักเตะเท่านั้น แต่ซนฮึงมินยังมีทักษะการเตะที่ยอดเยี่ยมอย่างหาตัวจับได้ยาก เขาสามารถยิงประตูได้อย่างเฉียบคมทั้งเท้าซ้ายและเท้าขวาอีกด้วย!
“พ่อจะคิดถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับผมอยู่ตลอดเวลา
เขาทำทุกอย่างเพื่อผม หากไม่มีเขาก็คงไม่มีผมในวันนี้
– ซนฮึงมิน”
จากเด็กชายผู้ชื่นชอบฟุตบอล สู่สิงห์สนามตัวจริง
ซนฮึงมินก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพครั้งแรกในตอนที่อายุ 16 ปีอย่างที่พ่อของเขาได้กำหนดไว้ผ่านสโมสรเอฟซีโซล ก่อนที่จะเข้าสู่ทีมเยาวชน “ฮัมบูรก์” แห่งเยอรมันผ่านโครงการที่นักเตะเยาวชนทั่วทั้งเกาหลีใต้ใฝ่ฝันอย่าง “Korean FA Youth Project” ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนเด็กๆ ที่มีความสามารถด้านฟุตบอลได้มีโอกาสในการเรียนและฝึกฝนกับสโมสรขั้นนำของยุโรป ซนฮึงมินฉายแสงความโดดเด่นในอาชีพนักค้าแข้งจนได้เซ็นสัญญาด้วยวัยเพียง 18 ปี และได้สร้างตำนานในการเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดของฮัมบูร์กที่สามารถทำประตูในนัดการแข่งขันกับทีมโคโลญจน์ด้วยวัยเพียง 18 ปีเช่นเดียวกัน
ในนาทีนี้ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความโดดเด่นของซนฮึงมินได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากฝีเท้าของเขาเรียกได้ว่ายอดเยี่ยมจนหาตัวจับยาก จนทำให้ ‘เลเวอร์คูเซ่น’ คว้าตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวสูงลิบถึง 10 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดของสโมสรในเวลานั้น และในที่สุดซนฮึงมินก็ได้ย้ายสโมสรอีกครั้งเพื่อร่วมทีมกับทอตนัมฮอตสเปอร์ด้วยค่าตัวที่เรียกได้ว่าแพงที่สุดที่นักเตะเอเชียเคยได้รับมาก่อน โดยที่ซนฮึงมินได้รับค่าตัวสูงถึง 30 ล้านยูโร ทุบสถิติเดิมของฮิเดโตชิ นากาตะ ที่ย้ายจาก โรม่า ไปยัง ปาร์ม่า ด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร ซนฮึงมินพัฒนาฝีเท้าและทำประตูได้อย่างดีสม่ำเสมอเรื่อยมา โดยแรกเริ่มเดิมทีเขารับตำแหน่งซูเปอร์ซับแต่ก็สามารถทำประตูได้ถึง 8 ลูกในฤดูกาล 2015 – 2016 ที่ผ่านมา จนกระทั่งได้ก้าวสู่นักเตะชั้นแนวหน้าของสเปอร์และทำประตูไปถึง 21 จากทุกนัดในฤดูกาล 2016 – 2017 ส่งให้ซนฮึงมินคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรมา 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
ในพาร์ทของนักเตะพรีเมียร์ลีกอังกฤษเขาคือนักเตะดาวรุ่งน้องใหม่ แต่ในขณะเดียวกันซนฮึงมินคือนักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ที่ลงสนามมานับไม่ถ้วน โดยที่ผลงานเด่นๆ และสร้างชื่อให้กับเขาก็คือการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ซนฮึงมินพาทีมชาติเกาหลีใต้พลิกล็อกชนะทีมชาติเยอรมันไปถึง 2 – 0 ประตูเลยทีเดียว
ก้าวสู่ตำแหน่ง “ดาวซัลโว” ประจำฤดูกาล 2021 – 2022
ซนฮึงมินยังคงพัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่องด้วยการเข้าสู่การเป็นนักเตะชั้นแนวหน้าของทีมทอตนัมฮอตสเปอร์ โดยมี “แฮร์รี่ เคน” เป็นนักเตะคู่หูกันและสามารถทำประตูและแอสซิสต์ไปได้ถึง 36 ครั้งเทียบเท่ากันคู่ค้าแข้งในตำนานอย่าง “แฟรงค์ แลมพาร์ด” และ “ดิดิเยร์ ดร็อกบา” สิงห์สนามสุดโหดจากทีมเชลซีนั่นเอง
จนกระทั่งเข้าสู่การแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2021 – 2022 ซนฮึงมินยังคงฟอร์มดีไม่มีตกอย่างต่อเนื่อง จนสามารถคว้าตำแหน่งดาวซัลโวประจำฤดูกาลมาครองได้ร่วมกันกับ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” กองหน้าจากทีมลิเวอร์พูล โดยสามารถทำประตูไปได้ทั้งหมด 23 ประตูจาก 35 นัด ส่งทรงให้เขาขึ้นตู่ตำแหน่งดาวซัลโวชาวเอเชียคนแรกของการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอังกฤษในที่สุด
ผลงานและเกียรติประวัติของซนฮึงมิน
ในฐานะผู้เล่นของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
- รองแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018 – 2019
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำสโมสร ฤดูกาล 2018 – 2019, 2019 – 2020
- ผู้เล่นยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกประจำเดือน ก.ย. 2016, เม.ย. 2017, ต.ค. 2020
- ประตูยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019 – 2020
- ติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกของพีเอฟเอ ฤดูกาล 2020 – 2021
ในฐานะผู้เล่นของทีมชาติเกาหลีใต้
- แชมป์เอเชียน เกมส์ 2018
- รองแชมป์เอเชียน คัพ 2015
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเอเชีย 5 สมัย ( 2014, 2015, 2017, 2018, 2019 )
- นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเกาหลีใต้ 4 สมัย ( 2013, 2014, 2017, 2019 )
อีกด้านของชีวิต “ซนฮึงมิน” ที่ยิ่งกว่าคำว่านักกีฬา
ปัจจุบันซนฮึงมินในวัย 30 ปีเรียกได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพที่เขารักแล้วในระดับหนึ่ง เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์และความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง สามารถการันตีได้ด้วยตำแหน่งดาวซัลโวและติดรายชื่อในการจัดอันดับของ Forbes Korea พบว่าซนฮึงมินเป็นนักกีฬาเพียงคนเดียวท่ามกลางกระแสความนิยมศิลปิน K – Pop ที่ได้รับความรักและความนิยมเป็นอย่างดี จนสามารถเรียกได้ว่าซนฮึงมินนั่นเป็น ‘สัญลักษณ์ของวงการกีฬาเกาหลีใต้’ ก็ว่าได้ ความนิยมในตัวของเขายังคงไต่อันดับอย่างต่อเนื่องถึงขนาดที่ “อีซังโม” นักข่าวกีฬาชื่อดังเคยให้สัมภาษณ์ “ซนฮึงมินเป็นที่รู้จักอย่างดี และเป็นที่รักของชาวเกาหลีใต้ทุกชั่วอายุคน” ก็ว่าได้
นอกจากบทบาทนักกีฬาค้าแข้งแล้ว ซนฮึงมินยังได้รับโอกาสในการเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ดังอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Adidas, Burberry และล่าสุดในตำแหน่งแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Calvin Klein Underwear แบรนด์ดังที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในฝั่งของเอเชียผ่านการจึงศิลปินผู้มีชื่อเสียงอย่าง “เจนนี่ Blackpink” “จองโฮยอน จากเรื่อง Squid Games” “จอย Red Velvet” หรือแม้กระทั่งเซ็กซี่ไอดอลอย่าง “ฮยอนอา” ก็ไม่พลาดที่จะดึงซนฮึงมินไปร่วมงานในแคมเปญ #mycalvins นั่นเอง
ชีวิตของซนฮึงมินมีทุกวันนี้ได้ เนื่องจากการฝึกฝนอย่างเข้มข้น เข้มงวด มีระเบียบวินัย และให้เกียรติกับอาชีพ “นักฟุตบอล” ที่เขาชื่นชอบได้เป็นอย่าง รวมไปถึงการวางตัวในสโมสรระดับที่ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องตกหลุมรักในความเรียบง่ายและไม่ธรรมดาของเขาอย่างแน่นอน สำหรับน้องๆ คนไหนที่มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จแบบนี้ Breaker ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนได้สู้ต่อไปอย่าหยุดยั้ง และเตรียมตัวให้พร้อมกับอุปสรรคที่ผ่านมาอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกันนะ!