การต่อสู้ระยะประชิดใน PUBG เป็นช่วงเวลาที่กดดันและสร้างความตื่นเต้น หลายคนมักประหม่า ตื่นเต้น หรือกดปุ่มผิดเพราะรีบร้อน ทำให้ยิงพลาดหรือเสียเปรียบโดยไม่ทันได้ตอบโต้ ปัญหาหลักมักมาจากการขาดการเตรียมตัว ไม่รู้จักใช้อาวุธที่เหมาะสม หรือควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ หลายคนแม่นยำในระยะไกล แต่เมื่อประชิดกลับเสียสมาธิ หากคุณเคยเจอปัญหานี้ อย่าหมดหวัง เพียงเข้าใจหลักการเลือกอาวุธ การเคลื่อนที่ และอ่านเกมให้ดี คุณก็สามารถเอาตัวรอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. เลือกปืนให้เหมาะกับสถานการณ์
การเลือกอาวุธมีผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ของการต่อสู้ในระยะประชิด ปืนที่เหมาะสมช่วยให้คุณยิงได้รวดเร็วและควบคุมง่ายขึ้น หากเลือกผิด คุณอาจเสียเปรียบแม้จะยิงก่อน เทคนิคนี้ช่วยให้คุณเข้าใจจุดเด่นของแต่ละอาวุธ และเลือกใช้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ต่างๆ ปืนที่เหมาะกับการต่อสู้ในระยะประชิดต้องมีอัตรายิงที่เร็วและพลังทำลายสูง เช่น
- SMG (Submachine Guns): UMP45, Vector, MP5K ยิงไว คุมง่าย ใช้ได้ดีในอาคาร
- Shotgun: S12K, S686, S1897 ดาเมจแรง จบศัตรูได้ในนัดเดียวหากยิงแม่น
- AR (Assault Rifles): M416, Beryl M762, AKM ใช้โหมดอัตโนมัติ (Auto) สำหรับดวลใกล้
เคล็ดลับ: พกปืนที่มี Hip Fire ดี (ยิงโดยไม่เล็ง) และตั้งโหมดยิงเป็น Auto เพื่อให้ตอบสนองไวที่สุด

2. ใช้ Lean (เอนตัว) ให้เกิดประโยชน์
หากยิงออกไปโดยไม่ใช้มุมกำบัง โอกาสรอดจะลดลงอย่างมาก Lean ช่วยให้คุณโผล่ออกไปยิงโดยที่ตัวเองยังปลอดภัยอยู่หลังสิ่งกำบัง ใช้เทคนิคนี้เมื่อคุณต้องการลดโอกาสโดนยิงกลับ และเพิ่มความแม่นยำขณะดวลกับศัตรูที่อยู่ในมุมอับ การเอนตัวซ้ายขวา (Q และ E บน PC / ปัดซ้ายขวาบนมือถือ) ช่วยลดโอกาสโดนยิง และยังสามารถยิงตอบโต้ได้โดยไม่ต้องออกตัวมากเกินไป
เทคนิค:
- Peek ยิง (Lean Shooting): เอนตัวจากหลังประตูหรือกำแพงเพื่อยิงโดยให้ตัวเองโผล่ออกไปน้อยที่สุด
- Lean Spam: สลับเอนตัวซ้ายขวาอย่างรวดเร็วขณะยิงเพื่อทำให้ศัตรูเล็งได้ยากขึ้น
3. การเคลื่อนที่ระหว่างการยิง (Strafing & Jiggle Peek)
การยืนนิ่งเป็นเป้าหมายที่ง่ายต่อการถูกยิง เทคนิคการเคลื่อนที่ขณะยิงช่วยให้ศัตรูเล็งคุณได้ยากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้การ Peek อย่างมีชั้นเชิงเพื่อก่อกวนและทำให้ศัตรูเผยตำแหน่งก่อน เทคนิคนี้เหมาะสำหรับการปะทะที่ต้องการความรวดเร็วและการตอบสนองที่ไว
- Strafing: เคลื่อนที่ซ้ายขวาอย่างต่อเนื่องขณะยิง ลดโอกาสโดนศัตรูเล็งหัว
- Jiggle Peek: โผล่ออกไปให้ศัตรูยิงก่อน แล้วเก็บข้อมูลว่าเขาอยู่ตรงไหน จากนั้นยิงสวน
- Jump Peek: กระโดดโผล่ยิงจากมุมอับ ใช้ได้ดีเมื่อศัตรูซุ่มรออยู่
เคล็ดลับ: อย่ายืนนิ่งเป็นเป้านิ่ง! เคลื่อนที่ตลอดเวลาเพื่อลดโอกาสโดนศัตรูล็อกเป้า

4. การใช้ Hip Fire กับ Aim Down Sight (ADS) ให้ถูกจังหวะ
รู้ว่าเมื่อไหร่ควรเล็ง และเมื่อไหร่ควรยิงจากสะโพกเป็นสิ่งสำคัญในระยะประชิด การยิงแบบ Hip Fire เหมาะกับระยะใกล้มากๆ ที่ความเร็วเป็นสิ่งสำคัญ ส่วน ADS ใช้เมื่อคุณต้องการความแม่นยำ เทคนิคนี้ช่วยให้คุณเข้าใจการใช้สองรูปแบบให้ถูกต้องในสถานการณ์ต่างๆ
- Hip Fire (ยิงโดยไม่เล็ง) ใช้เมื่อศัตรูอยู่ใกล้มาก (5-10 เมตร) จะทำให้ยิงได้เร็วกว่า
- ADS (เล็งผ่านศูนย์เล็ง) ใช้เมื่อระยะห่างมากกว่า 10 เมตร เพื่อความแม่นยำที่สูงขึ้น
เทคนิค:
- ตั้งค่าความไวของกล้องให้เหมาะสม เพื่อให้เปลี่ยนจาก Hip Fire เป็น ADS ได้รวดเร็ว
- ใช้ Laser Sight สำหรับช่วยเพิ่มความแม่นยำในการยิงแบบ Hip Fire
5. ฟังเสียงและใช้ประโยชน์จากเสียงศัตรู
ในระยะประชิด การได้ยินเสียงศัตรูสามารถบอกได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน และกำลังทำอะไร หากคุณรู้ว่าเขาเคลื่อนที่อย่างไร คุณจะสามารถวางแผนตอบโต้ได้อย่างแม่นยำ เทคนิคนี้ช่วยให้คุณใช้เสียงเพื่อดักทางศัตรู และทำให้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ ตัวอย่าง :
- หากศัตรูเดินเสียงดัง แสดงว่าเขาไม่รู้ว่าคุณอยู่ใกล้ ซุ่มรอให้เขาเข้ามาในจุดยิง
- หากเสียงฝีเท้าเงียบผิดปกติ แสดงว่าเขากำลังแอบ ใช้ระเบิดหรือล่อยิงเพื่อบังคับให้เขาออกมา

6. ใช้ระเบิดและอุปกรณ์ให้ถูกต้อง
ในบางครั้ง การยิงเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ระเบิดมือช่วยให้คุณควบคุมพื้นที่และบีบศัตรูให้อยู่ในตำแหน่งที่คุณต้องการ ควันช่วยให้คุณเคลื่อนที่ได้โดยไม่ถูกเห็น และแฟลชแบงช่วยให้ศัตรูเสียจังหวะ เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้ด้วยไอเทมเสริม
- ระเบิดมือ (Frag Grenade): ปาเข้าไปก่อนบุกห้อง หรือใช้ไล่ศัตรูออกจากจุดซ่อน
- ระเบิดควัน (Smoke Grenade): ใช้ปิดวิสัยทัศน์เมื่อหนีหรือฟื้นพลัง
- แฟลชแบง (Flashbang): ปาเข้าห้องก่อนบุกจะช่วยทำให้ศัตรูมองไม่เห็น
เคล็ดลับ: ฝึกปาระเบิดให้แม่น เพราะช่วยให้คุมพื้นที่และกดดันศัตรูได้ดีมาก
7. วางตำแหน่งและใช้มุมให้เป็นประโยชน์
การเลือกตำแหน่งที่ดีช่วยให้คุณมีโอกาสรอดมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะซุ่มยิงหรือดันเข้าไปโจมตี การใช้มุมกำบังให้ถูกต้องทำให้ศัตรูต้องเดาทางคุณแทนที่จะเป็นคุณที่ต้องเดา เทคนิคนี้ช่วยให้คุณเข้าใจการยืนตำแหน่งในจุดที่ปลอดภัยและได้เปรียบในการต่อสู้
เทคนิค:
- ใช้กำแพง ประตู หรือเฟอร์นิเจอร์เป็นที่กำบัง
- อย่ามุดเข้าไปในที่แคบโดยไม่มีแผนหนี
- อย่าต่อสู้บนพื้นที่โล่ง ถ้าเลี่ยงได้ให้หาทางดึงศัตรูเข้ามุม

8. อ่านเกมและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของศัตรู
การเข้าใจว่าศัตรูจะทำอะไรต่อไปช่วยให้คุณเตรียมรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการดักยิง การแกล้งเคลื่อนที่ หรือการใช้กลยุทธ์ลวง เทคนิคนี้ช่วยให้คุณอ่านพฤติกรรมของศัตรูและใช้มันให้เป็นประโยชน์ในการเอาชนะพวกเขา
ในช่วงระยะประชิด ศัตรูมักจะทำสิ่งเหล่านี้:
- วิ่งเข้ามาหาคุณทันทีถ้าเขามั่นใจว่าคุณเหลือพลังชีวิตน้อย
- ซุ่มรอถ้ารู้ว่าคุณกำลังเข้ามาหา
- พยายามเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อหลอกคุณ
วิธีรับมือ:
- แกล้งยิงเพื่อล่อศัตรูออกมา
- ถ้าเลือดน้อยให้ถอยก่อนอย่าฝืน
- สังเกตพฤติกรรมและตอบโต้ให้ไว
9. ฝึกซ้อมการดวล 1v1 ในโหมด Training และ Arena
การฝึกซ้อมเป็นสิ่งสำคัญ หากต้องการเก่งขึ้นในระยะประชิด คุณต้องมีความคุ้นเคยกับปืน การเคลื่อนที่ และสถานการณ์ที่หลากหลาย การฝึกในโหมดที่ออกแบบมาให้มีการปะทะอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณพัฒนาทักษะได้เร็วขึ้น เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและความสามารถในการดวล
แบบฝึกซ้อมที่แนะนำ:
- ฝึก Hip Fire และ ADS กับหุ่นเป้าหมาย
- ลองใช้ SMG กับ Shotgun ในโหมด Arena
- ซ้อมเคลื่อนที่ไปด้วยขณะยิง เพื่อให้เกิดความเคยชิน
การเอาตัวรอดในระยะประชิดของ PUBG ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ความเร็วในการยิงเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัย การเลือกปืนที่เหมาะสม, การเคลื่อนที่ที่ถูกต้อง, การใช้เสียงให้เป็นประโยชน์, และการคาดเดาศัตรู โดยต้องมีการฝึกฝนเทคนิคเหล่านี้เป็นประจำ แล้วคุณจะกลายเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งขึ้นในการดวลประชิด