สิ่งใดสิ่งหนึ่งเมื่อมันไม่ได้ถูกลิขิตให้เป็นของเรา เมื่อถึงเวลาที่สมควร ก็ต้องมีคำว่า “จากลา” แต่เมื่อใดสิ่งนั้นคือบุคคล นั่นหมายความว่า คนๆ นั้นเขาแค่เข้ามาเขียนบทความไว้ซักบท ในหนังสือชีวิตเราเพียงเท่านั้น แต่มันแปลกไหมละ เมื่อเขาเข้ามาเขียนแล้วก็จากไป แต่ทำไมเรายังย้อนกลับไปอ่านบทนั้นอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งหนังสือเล่มนั้น มันได้ถูกเขียนต่อโดยใครต่อใครไปแล้ว
การไม่ลืม “แฟนเก่า” มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน นั่นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับความคิดของตัวเอง เพราะมันบ่งบอกว่าเรากำลังคิดถึงคนๆ นึง ในช่วงเวลาดีๆ ตอนนั้น เราคิดถึงแค่เรื่องดีๆ ไม่ใช่เรื่องแย่ๆ ที่เขาเคยทำ แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่แย่เหมือนกัน สำหรับคนที่มีคนรักใหม่แล้ว เพราะมันดูเหมือนคุณไม่ได้ให้เกียรติกับความรักครั้งปัจจุบันเลย
บางราย ต้องใช้คำว่า “เอาแต่ใจ” เพราะไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะคิดว่าตัวเองทำถูกเสมอ ยังคงเก็บทุกเรื่องราวของแฟนเก่า ทั้งรูปธรรมและนามธรรม และเมื่อแฟนคนปัจจุบัน ถามไถ่ ก็มักจะมีน้ำโห เกิดการทะเลาะเบาะแว้งขึ้น สุดท้ายก็บอกว่าไม่ได้คิดอะไรแล้ว แต่กระนั้นเถอะ ในเมื่อมันยังคงมีตัวตนอยู่ เรื่องความไม่สบายใจของแฟนปัจจุบัน เขาก็ยังคงคิดแบบนั้นเสมอ คราวนี้คุณต้องมาลองช่างน้ำหนักดูแล้วละ ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร
ไม่มีความคิดไหนถูกหรือผิดถ้ามันถูกตัดสินจากตัวของเรา สิ่งสำคัญที่สุดในการหาคำตอบของเรื่องนี้คือ “การจัดการ” ไม่ผิดที่จะคิดถึง “อดีต” แต่ต้องเคารพ “ปัจจุบัน” ด้วย อย่าให้ความหลังมาทำลายอนาคต เมื่อคุณรู้และจัดการมันได้ด้วยตัวเองแล้ว สิ่งต่อไปคือเดินหน้าเข้าใจคนข้างๆ ด้วย และความสุขจะมาแน่นอน อย่าให้ใครมาว่าเราว่า “เห็นแก่ตัว” อย่าให้มาฉีกหนังสือบทเก่านั้นแบบไร้เหตุผล เก็บบทนั้นไว้ในความทรงจำ และเขียนบทใหม่ ด้วยความรักที่งดงาม