ครอบครัว มิโน่ ไรโอล่า ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าซูเปอร์เอเยนต์ เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 54 ปี แม้ว่าเมื่อกลางสัปดาห์มีข่าวลือว่า ไรโอล่า เสียชีวิต ก่อนที่โซเชียลมีเดียของเอเยนต์รายนี้จะออกมาโพสต์แก้ข่าวว่ายังมีชีวิตอยู่ก็ตาม
ไรโอล่า เกิดในอิตาลี แต่เติบโตในเนเธอร์แลนด์ และเริ่มต้นการเป็นเอเยนต์ที่ Sports Promotion ด้วยดีลแรกที่เขาเกี่ยวข้องกับการย้ายของ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด จากสปอร์ติ้ง ลิสบอน ไปสู่ เอซี มิลาน ดีลแรก ๆ ของเขาส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับผู้เล่นชาวดัตช์ที่ย้ายไปกัลโช่ เซเรีย อา และหนึ่งในนั้นที่โดดเด่นที่สุดคือการย้ายของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ จากอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไปยัง อินเตอร์ มิลาน ในปี 1993
แต่ถ้าชื่อแรก ๆ ที่คุณจะนึกถึง ไรโอล่า เลยก็คือ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เขาเป็นนายหน้าซื้อขายหัวหอกชาวสวีเดน 6 ครั้ง ตั้งแต่ อาแจ็กซ์ ไปยัง ยูเวนตุส และจากนั้นไป อินเตอร์, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวรวมกันเพียง 130 ล้านยูโร
ไรโอล่า มีเหล่านักเตะชื่อดังมากมายที่ให้ความไว้วางใจในการจัดการดีลทั้ง เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์, ปอล ป็อกบา, จานลุยจิ ดอนนารุมม่า, มัทไธส์ เดอ ลิกต์, เดนเซล ดัมฟรีส์ และ มาร์โก้ แวร์รัตติ รวมถึงแข้งดาวรุ่งที่กำลังมาแรงเช่น มอยเซ่ คีน, จัสติน ไคลเวิร์ต, ไบรอัน บร็อบบี้, ไรอัน กราเวนเบิร์ช และ ดอนเยลล์ มาเลน ซึ่งที่กล่าวว่าเรามาดูกันว่าการย้ายทีมที่ดีที่สุดมีใครกันบ้าง
1. ปอล ป็อกบา (ยูเวนตุส ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 105 ล้านยูโร)
การย้ายจาก ยูเวนตุส ไปยัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2016 ของ ปอล ป็อกบา เป็นการย้ายทีมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลตอนนั้นและมีรายงานว่า ไรโอล่า รับเงินเหนาะ ๆ ถึง 25 ล้านยูโรสำหรับการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ อย่างไรก็ตามการย้ายของ ป็อกบา แม้จะได้ผลที่ดีทางการตลาดหรือสำหรับ ไรโอล่า เอง แต่ทว่ามันกลับไม่ได้ผลถ้าว่ากันด้วยเรื่องของผลงานในสนาม และเจ้าตัวก็เตรียมย้ายทีมอีกครั้งในซัมเมอร์นี้
2. โรเมลู ลูกากู (เอฟเวอร์ตัน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, 85 ล้านยูโร)
โรเมลู ลูกากู อาจเริ่มต้นได้ตะกุกตะกักในช่วงแรก แต่เขาก็พัฒนาจนเป็นกองหน้าและตัวจบสกอร์ที่ทรงพลัง กองหน้าชาวเบลเยียมแจ้งเกิดเมื่อย้ายจาก เชลซี ไปยัง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และ เอฟเวอร์ตัน แบบยืมตัว ก่อนที่รายหลังจะเซ็นสัญญาแบบถาวร ในปี 2014 ผลงานของเขาโดดเด่นจนย้ายไป แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2017 แต่สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้ผลนักที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และเขาก็มุ่งหน้าไป อินเตอร์ มิลาน ด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 80 ล้านยูโร ซึ่งเขากลับมาเค้นฟอร์มอีกครั้งจนได้กลับมาอยู่ เชลซี อีกครั้งในราคา 115 ล้านยูโรเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยที่สองดีลหลังนั้นดำเนินการโดยเอเยนต์คนปัจจุบันอย่าง เฟเดริโก้ ปาสตอเรลโล่
3. มัทไธส์ เดอ ลิกต์ (อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ไป ยูเวนตุส, 75 ล้านยูโร)
หลังจากโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่งเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2018-19 มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ที่เนื้อหอมมาก ๆ ในเวลานั้นก็ได้ย้ายไป ยูเวนตุส ในปี 2018 ด้วยสนนราคา 75 ล้านยูโรด้วยอายุเพียง 19 ปี
4. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (อินเตอร์ ไป บาร์เซโลน่า, 46 ล้านยูโร)
แม้ว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะไม่ลงรอยกันหลังจากนั้น แต่อย่างไรก็ตาม บาร์เซโลน่า ใช้เงิน 46 ล้านยูโรและส่ง ซามูเอล เอโต้ สลับขั้วกับ อินเตอร์ มิลาน ในปี 2009 หัวหอกชาวสวีเดนอยู่ในถิ่น คัมป์ นู ได้เพียงฤดูกาลเดียวก่อนที่จะย้ายไป เอซี มิลาน แบบยืมตัว โดยที่ อิบราฮิโมวิช ตราหน้า กวาร์ดิโอล่า ว่า “ไอ้ขี้ขลาด” ก่อนที่ภายหลังเขาจะพูดถึงการตัดสินใจของนายใหญ่ชาวสแปนิชที่สร้างทีมโดยมี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นศูนย์กลางว่า “เขาไม่ใช่โค้ชที่แย่ที่สุดที่ผมเคยร่วมงานมา แต่แน่นอนว่าเขายังไม่ได้เป็นผู้ใหญ่มากพอ เพราะมีคนที่แก้ปัญหาให้เขาได้” หลังจากนั้น เอโต้ ที่โดน บาร์ซ่า เฉดหัวสามารถโค่นทีมเก่าของเขาในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะเถลิงแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ภายใต้การคุมทีมของ โจเซ่ มูรินโญ่
5. พาเวล เนดเวด (ลาซิโอ ไป ยูเวนตุส, 41 ล้านยูโร)
หนึ่งในการติดต่อซื้อขายครั้งแรก ๆ ของ ไรโอล่า คือการพา พาเวล เนดเวด ย้ายจาก ลาซิโอ ไปยัง ยูเวนตุส ซึ่งต่อมาเขากลายเป็นตำนานของเบียงโคเนรี่ กองกลางชาวเช็กถูกดึงเพื่อแทนที่ ซีเนอดีน ซีดาน เขายังอยู่กับทีมแม้ว่า ยูเวนตุส จะตกชั้นไปเนื่องจากพัวพันคดีล้มบอลระหว่างฤดูกาล 2005-2006 ก่อนที่เขาจะแขวนสตั๊ดไปในปี 2009 โดยปัจจุบัน เนดเวด ดำรงตำแหน่งรองประธานสโมสรยูเวนตุส