ลิเวอร์พูล กำลังไล่ล่าความสำเร็จโดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่พวกเขาลุ้นคว้า 4 แชมป์ในประวัติศาสตร์ แต่การประกาศว่าผู้จัดการทีมอย่าง เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ขยายสัญญาฉบับใหม่ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดของสโมสรเช่นกัน
ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของ คล็อปป์ มีโอกาสสูงที่จะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งที่สามในยุคของนายใหญ่ชาวเยอรมัน หลังจากที่เอาชนะ บีญาร์เรอัล 2-0 ในรอบรองชนะเลิศ เลกแรก และคว้าแชมป์คาราบาว คัพ ได้แล้วในฤดูกาลนี้
นอกจากนี้แล้วพวกเขาจะพบกับ เชลซี ในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่เวมบลี่ย์เดือนพฤษภาคมนี้ และตามหลังจ่าฝูงและแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงแต้มเดียวเท่านั้นในการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สองในประวัติศาสตร์ของสโมสร
สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากปราศจากอิมแพ็คจากการเปลี่ยนแปลงของ คล็อปป์ นับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมถิ่นแอนฟิลด์แทนที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในเดือนตุลาคม 2015
การตัดสินใจของ คล็อปป์ ในการยืนยันความตั้งใจที่จะอยู่ที่ ลิเวอร์พูล จนถึงปี 2026 ทำให้เขาจะกลายเป็นผู้จัดการทีมที่ดำรงตำแหน่งกุนซือยาวนานที่สุดของพรีเมียร์ลีกในยุคปัจจุบันด้วยระยะเวลา 10 ปีที่แอนฟิลด์
มันจะเป็นข่าวดีอย่างมากสำหรับแฟนบอลหงส์แดงเพราะเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน คล็อปป์ เคยออกมาพูดเกี่ยวกับการทำตามคำมั่นสัญญาที่จะอยู่จนครบสัญญาปัจจุบันจนถึงปี 2024 แล้วก็อำลาทีมไป
คล็อปป์ กล่าวในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาว่า “แผนการในขณะนี้คืออยู่ไปจนถึงปี 2024 แล้วก็แยกย้าย”
คล็อปป์ มีขุมกำลังระดับโลกที่เขาปั้นขึ้นมาซึ่งขณะนี้กำลังพยายามทำตามเป้าหมายให้สำเร็จ นั่นก็คือการคว้าแชมป์ทั้ง 4 รายการ เมื่อ คล็อปป์ ระบุว่าเขาอาจพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงแผนการของตัวเอง ลิเวอร์พูล ก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วให้แน่ใจว่ากุนซือรายนี้จะจรดปากกาเซ็นสัญญาในทันที
มันเกิดขึ้นหลังจากที่ คล็อปป์ ได้รับเวลาและความอดทนในการต่อสัญญาฉบับใหม่ หลังจากพา ลิเวอร์พูล เข้ารอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปี 2018 ซึ่งพวกเขาแพ้ให้กับ เรอัล มาดริด ก่อนที่จะเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในปีต่อมา จากนั้นก็ได้มีโอกาสชูถ้วยแชมป์ลีกสมัยแรกที่รอคอยมานานในรอบ 30 ปี ในปี 2019-20
พืชผลในปัจจุบันของลิเวอร์พูลกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ความเป็นผู้นำและการจัดการของ คล็อปป์ เป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้เล่นของเขา หมายความว่าการคว้าถ้วยแชมป์ทั้ง 4 รายการนี้จะเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ น่าจะเป็นอุปสรรคสำคัญในลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก และในขณะที่ เชลซี จะเป็นคู่แข่งที่น่าเกรงขามในศึกเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ แต่ คล็อปป์ ก็ให้คำมั่นแก่นักเตะและแฟนบอลด้วยความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างมันเป็นไปได้เสมอ
มันมีเครื่องหมายคำถามเกี่ยวกับอนาคตระยะยาวของคล็อปป์หลังปี 2024 แต่ตอนนี้สิ่งนี้ถูกลบออกไปแล้ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับสโมสรจะต้องยินดีเป็นอย่างยิ่งกับข่าวการต่อสัญญาของเขา
คล็อปป์ ดูเหนื่อยในช่วงฤดูกาลที่แล้วขณะที่ฟุตบอลเล่นกันแบบปิดสนามท่ามกลางการระบาดของโคโรน่าไวรัส การมีส่วนร่วมของแฟนบอลที่เขารักที่แอนฟิลด์เหือดหายไป และอาจสะท้อนให้เห็นในผลงานในบ้านที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรในการพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีก 6 นัดติดต่อกัน
ในฤดูกาลนี้เขาได้รับพลังอีกครั้ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากการกลับมาของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังที่เก่งที่สุดในโลก หลังจากอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าอย่างรุนแรงจนทำให้เขาต้องพักเกือบทั้งซีซั่นที่แล้ว
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเห็นว่าทำไม คล็อปป์ จะไม่อำลาทีมในเร็ว ๆ นี้ สิ่งที่เขาสร้างและวางไว้มันมีอนาคตที่ดี ควบคู่ไปกับทีมสำรองที่เชื่อถือได้และโครงสร้างที่พัฒนาโดยเจ้าของทีมเฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป เขาไม่เพียงแต่มีทีมในตอนนี้ แต่ยังสร้างเพื่ออนาคตอย่างชาญฉลาดสำหรับปีต่อ ๆ ไปอีกด้วย
มันเป็นเวลานานแล้วที่แนวรุกทั้งสามคนของลิเวอร์พูลอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์เมียโน่, ซาดิโอ มาเน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นจุดศูนย์กลางของสไตล์การเล่นที่ดุดันและเพรสซิ่ง ซึ่งเป็นแนวทางของคล็อปป์มาโดยตลอด
พวกเขายังคงอยู่ที่นั่นแม้ว่าสัญญาของ ซาลาห์ ยังคงเป็นปัญหา แต่ คล็อปป์ ก็ดึง ดิโอโก้ โจต้า มาจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส เช่นเดียวกับดีลที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาอย่าง หลุยส์ ดิอาซ มาจาก เอฟซี ปอร์โต้
อิบราฮิมา โกนาเต้ เป็นดีลที่ยอดเยี่ยมเช่นกันด้วยตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คมาจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ในขณะที่ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ตอนนี้กลับมาฟิตและอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มอีกครั้ง หลังจากต้องดิ้นรนกับปัญหาเรื่องความฟิตในฤดูกาลแรก
อย่างไรก็ตาม ฟีร์เมียโน่ กำลังประสบปัญหาความฟิตในฤดูกาลนี้ ในขณะที่ เจมส์ มิลเนอร์ ในวัย 36 ปีกลายเป็นนักเตะแบ็คอัพของทีม แต่เขาก็ยังมีอิทธิพลอย่างมหาศาลต่อห้องแต่งตัว ถึงกระนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่า คล็อปป์ ได้พัฒนาทีละขั้นจากทีมที่โดดเด่นทีมหนึ่งไปสู่อีกขั้น
คล็อปป์ กำลังพัฒนานักเตะรุ่นใหม่อย่าง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ด้วยการมอบหมายเล่นในตำแหน่งใหม่แต่ทำออกมาได้ดีทีเดียว ในขณะที่ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่ แนวรุกดาวรุ่งจาก ฟูแล่ม เตรียมย้ายเข้ามาร่วมทัพเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลด้วยอีกคน ดังนั้นอนาคตระยะยาวของ ลิเวอร์พูล น่าจับตามองจริง ๆ
ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการด้านกีฬามีบทบาทสำคัญในการรวบรวมชิ้นส่วนต่าง ๆ แต่เขาจะออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ โดยที่ ยูเลี่ยน วอร์ด ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากภายในและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ คล็อปป์
คล็อปป์ ถูกมองว่าจะเป็นผู้จัดการทีมระดับตำนานที่สร้างชื่อให้กับสโมสรในลักษณะเดียวกับของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่เคยฝากไว้ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่ทำกับ อาร์เซนอล
เขาอาจไม่สามารถเทียบได้กับจำนวนแชมป์หรือระยะเวลาในการคุมทีม แต่การปรากฏตัวของเขาที่ลิเวอร์พูล และการมีสัญญาอย่างน้อยจนถึงปี 2026 ภายใต้เงื่อนไขใหม่ แน่นอนว่ามันจะรับประกันความสำเร็จได้มากเท่าที่ควร
คล็อปป์ ชั่งน้ำหนักการตัดสินใจเรื่องสัญญาอย่างระมัดระวัง เขาไม่ได้เซ็นสัญญาระยะยาวเว้นแต่เขาจะมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะให้เกียรติพวกเขา ดังนั้นความจริงที่ว่าเขาค่อนข้างมั่นใจว่าจะอยู่ ลิเวอร์พูล ต่อไปอีก 4 ปีส่งผลให้เกิดความชื่นชมยินดีจากแฟนบอล, ผู้เล่น และทุกคนในแอนฟิลด์
เยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างมันขึ้นมากับมือ ทำไมเขาถึงต้องเดินหนีจากมันด้วยล่ะ?